วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2558

[Full HD] Blade Runner (1982) (The Final Cut) : เบลด รันเนอร์ *ภาพยนตร์ไซไฟคลาสสิคขึ้นหิ้ง* [พากย์ไทย]


วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[Full HD] Blade Runner (1982) (The Final Cut) : เบลด รันเนอร์ *ภาพยนตร์ไซไฟคลาสสิคขึ้นหิ้ง* [พากย์ไทย]

Blade Runner (1982) (The Final Cut)/เบลด รันเนอร์ ***ภาพยนตร์ไซไฟคลาสสิคขึ้นหิ้งของผู้กำกับ Ridley Scott*** [พากย์:English TrueHD/Thai5.1][SUB:English/Thai]-Encode.H.264.1080p. [Modified]-[พากย์ไทย]

 





้เรื่องย่อ...

           ".....Los Angeles (2019) - เหลืออีก 9 ปีเองก็จะถึง แต่หนังเรื่องนี้มีการพูดไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ปี 1982 หรือเมื่อ 28 ปีมาแล้ว เป็นการกำกับโดยผู้กำกับที่ปัจจุบันใครๆก็ยกย่องในฝีมือ คือ Ridley Scott นำแสดงโดย Harrison Ford, Sean Young, Rutger Hauer, Daryl Hannah, Joanna Cassidy

หนังเรื่องนี้เป็นมุมมองในอนาคต ประชากรส่วนใหญ่อพยพไปอยู่ Off World ลอสแองเจงลิส ในเวลานั้น เศรษฐกิจส่วนใหญ่อยู่ในมือคนญี่ปุ่น สังเกตภาษาหลัก แทบจะกลายเป็นภาษาญี่ปุ่น การแต่งตัว โปสเตอร์ อาหารการกิน เนื้อเรื่องพูดถึงกลุ่มหุ่นยนต์ที่สามารถมีความรู้สึกเหมือนมนุษย์มากๆคือกลุ่ม Replicant หุ่นยนต์เหล่านี้เหมือนคนจนดูไม่ออก ซึ่งการจะแยกแยะออกมาได้อยู่ที่ดวงตา จะมีอาการตอบรับอย่างไรเมื่อมีการถามคำถาม ประมาณ 20-30 คำถาม ดังนั้นความรู้สึกของหุ่นยนต์นี้สามารถรับความรู้สึกของมนุษย์ได้ ทั้งความรัก การแสดงอาการเสียใจ (มีน้ำตา) อาการโกธรแค้น และสามารถมีเพศสัมพันธ์กับมนุษย์ได้

กลุ่มหุ่นยนต์นี้ถูกสร้างให้เป็น Slave ของเจ้านาย และนำไปใช้ในเขต Off World ถ้าหุ่นยนต์ตัวไหนหนีออกจากเจ้านาย ก็จะถูกตามล่าโดยอาจจะเป็นตำรวจหรือมือสังหารที่ถูกเรียกว่า Blade Runner  Harrison Ford เล่นเป็นอดีตตำรวจที่มีฝีมือในการล่าหุ่นยนต์ Replicant ซึ่งได้เลิกการล่าหุ่นยนต์เหล่านี้แล้ว แต่ครั้งนี้เขาถูกตามตัวมาล่าหุ่นยนต์ 4 ตัวด้วยกัน ระหว่างการตามล่า เขากลับตกหลุมรักหุ่นยนต์สาว (Sean Young) ซึ่งเป็นผู้ช่วยสาว ขององค์การที่ผลิตหุ่นยนต์นี้

ถ้าอ่านเนื้อเรื่องมาเท่านี้ ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้ อาจจะไม่ต่างกับหนังแอ๊คชั่นหรือหนังวิทยาศาตร์โดยทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 100 หรือ 50 หนังยอดเยี่ยมตลอดกาล ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างดังต่อไปนี้

การดำเนินเรื่องเป็นลักษณะ Film Noir นี่ไม่ใช่หนังในลักษณะยิงกัน หรือในลักษณะหนังของ Scott ในระยะหลัง แต่การดำเนินเรื่อง เป็นลักษณะแสดงให้เห็นภาวะจิตใจของแต่ละตัวละครในลักษณะหม่นหมองทั้งเรื่อง (ลักษณะเดียวกับ Batman Begins แต่หม่นมากกว่าอีก) ลักษณะหนังดูเหมือนเป็นการสืบสวนสอบสวน แต่เพียงแต่ย้ายหนังไปสู่อนาคต

จินตนาการของผู้เขียนเรื่องนี้ (สร้างจากหนังสือเรื่อง Do Android Dream of Electric Sheep) ที่มีหลายแง่มุมที่เกิดขึ้นจริง คำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานโดยการพูด (ต้องเข้าใจว่าปี 1982 นั้น เครื่องคอมไม่ใช่ PC ในปัจจุบัน) คัตเอาท์ขนาดใหญ่ที่มีการแสดงภาพเคลื่อนไหวได้, การใช้โทรศัพท์แบบเห็นหน้า, ลิฟท์แบบ Digital และอื่นๆ การทำนายถึงสภาพสิ่งแวดล้อมอันเลวร้าย จนคนต้องอพยพไปอยู่ต่างโลก โดยมีสภาวะ acid rain, ลอสแองเจลิส ที่เต็มไปด้วยผู้คนแออัด จราจรติดขัด (นี่มันกรุงเทพชัดๆ)

เนื้อเรื่อง ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบว่า หุ่นยนต์เป็น Slave แต่ในแง่ความเป็นจริง หนังพยายามสื่อถึงบุคคลที่ด้อยโอกาสกว่าในสังคม และต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนที่มีอำนาจกว่า ซึ่งเป็นความเจ็บปวด และการขาดอิสระทั้งความคิด และเสรีภาพ การที่ผู้มีอำนาจกว่าสามารถทำอะไรก็ได้ ทั้งการสั่ง และการมีเพศสัมพันธ์ (อันนี้สามารถสื่อได้จากในฉากสุดท้ายที่หุ่นยนต์บอกพระเอก)

คุณสามารถสัมผัสหนังเรื่องนี้ได้อย่างกลมกลืน ในการดำเนินเรื่อง ทางองค์ประกอบทางศิลป์ (ถูกเสนอชื่อชิง 2 รางวัลจากกำกับฝ่ายศิลป และ Visual Effect) ดนตรีโดย Vangelic ซึ่งผมชอบมากโดยเฉพาะตอน end credit การถ่ายภาพ และการแสดงอันยอดเยี่ยม เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย หนังเรื่องนี้เมื่อฉายครั้งแรก ดูเหมือนหนังจะมาก่อนเวลา เพราะคนคาดว่าจะได้เห็นความตื่นเต้นเต็มๆเหมือน Alien หรือ Star Wars แต่หนังดำเนินเรื่องไปคนละแนว รวมถึงในปีเดียวกัน ET ถูกนำออกฉาย ซึ่งเป็นคนละฝั่งกับหนังเรืองนี้ จึงไม่ประสพความสำเร็จทั้งในด้านรางวัลและรายได้ และอีกประการหนึ่ง การทำให้หนังต้องเปลี่ยนตอนจบใหม่ให้สมหวังตามนายทุนเจ้าของหนัง

แต่เมื่อเวลาผ่านไป หนังเรื่องนี้ได้รับการกล่าวขวัญ และได้รับการยกย่องมากขึ้น จนกลายเป็นหนังยอดเยี่ยมสำหรับหลายๆท่าน และเป็นต้นฉบับให้กับหนังหลายๆเรื่อง เช่น The Fifth Elements และ Scott ก็เริ่มมี power มากขึ้นในการสามารถตัดต่อหนังให้เป็นในแบบที่เขาต้องการ โดยครั้งแรกในปี 1997 และครั้งสุดท้ายคือในฉบับที่ผมได้ดูคือปี 2007 ซึ่งถ้าไม่บอกว่านี่คือหนังปี 1982 ผมเชื่อว่า หลายท่านอาจจะคิดว่า นี่คือหนังใหม่ เพราะไม่มีร่องรอยความเก่าให้เห็นเลย และนี่คือผลงาน MASTERPIECE ของ RIDLEY SCOTT อย่างแท้จริง......"

รายละเอียดไฟล์ >คลิก<

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น