หนัง เสนอเรื่องราวชีวิตต้องบู๊ของ ซันวู (ลีบยองฮุน จาก G.I. Joe: The Rise of Cobra / IRIS / ) ผจก.โรงแรมและเป็นมือขวาขาบู๊ของเจ้าพ่อมาดนิ่งคนหนึ่ง ซึ่งเขาได้รับมอบหมายให้คอยตามดูเด็กของเจ้าพ่อระหว่างที่ไม่อยู่ โดยกำชับว่าถ้าเจอเด็กคนนั้นมีกิ๊กให้เก็บทั้งคู่ทันที แต่ด้วยความที่เด็กของเจ้าพ่อรายนั้น (รับบทโดย ชิน มินอา) ดันน่ารักน่าถนุถนอมซะจนเขาตัดสินใจไว้ชีวิตทั้งคู่และพยายามเก็บเรื่องไว้ เป็นความลับ ทว่าในที่สุดเจ้านายจอมโหดของเขาก็รู้เรื่องจนได้ เล่นเอาชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ซึ่งบอกได้เลยว่างานนี้บู๊กันกระจายครับ
A Bittersweet Life (2005) :
ดูเหมือนว่า ผกก.คิม จีวุน หันไปทำหนังแนวไหนก็ดูจะทำออกมาได้ดีไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นหนังตลกกีฬาในผลงานช่วงแรกของเขาอย่าง Foul King (2000) หรือหนังผีจอมหักมุมที่ทำให้คนไทยเรารู้จักเขาอย่าง A Tale of Two Sisters (ตู้ซ่อนผี 2003) และสำหรับผลงานถัดมาของเขานี้ก็ขอหันไปทำหนังแอ็คชั่นบ้าง ซึ่งก็ยังทำออกมาได้แหล่มเป็นอย่างยิ่งจนถึงขนาดได้เข้าฉายที่เทศกาลหนัง เมืองคานส์ปี 2005 และเดินสายกวาดรางวัลจากเวทีต่างๆ อีกเพียบ
ผกก.คิม จีวุน ทำหนังออกมาทั้งเท่และรุนแรง(แต่ยังมีอารมณ์ขันแทรกเข้ามาได้อยู่) แถมไม่อิดเอื้อนที่จะขายพลังดาราของเฮีย ลีบยองฮุน ในบทหนุ่มมาดเท่ผู้มีศักดิ์ศรีชนิดยอมหักไม่ยอมงอ แต่ก็เปล่าเปลี่ยวหัวใจไร้คนเคียงข้าง ซึ่งเฮียเขาก็ทำได้ดีทั้งด้านดราม่าและด้านบู๊ กระนั้นถึงหนังจะขึ้นชื่อว่าเป็นหนังแอ็คชั่นแต่ก็ยังอุตส่าห์มีด้าน โรแมนติกชวนจี๊ดมาปะปนตามสไตล์หนังเกาหลีที่ถือว่าความโรแมนติกเป็นสิ่งที่ ทำให้โลกขับเคลื่อนไป ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้ให้เวลากับส่วนนี้มากนัก แต่ก็มีพลังมากพอที่จะทำให้ซึ้งและเห็นใจในชะตากรรมของพระเอกได้อยู่
เห ตุที่คิมจีวุนต้องทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็น “หนังนองเลือด” ก็เพราะว่า มันเป็นหนังฟิล์มนัวร์-แก๊งสเตอร์ ที่อุดมไปด้วยเหล่านักเลงใส่สูทดำ และฉากรุนแรงในระดับต่างกันไป ตั้งแต่ดีกรีอ่อนๆ แค่จับหัวกระแทกกระจกรถจนแหลกละเอียด , แรงขึ้นมาหน่อยในฉากยิงกันจะจะ ไปจนถึงบางฉากที่ชวนอึ้งสุดๆ
ใน ความเป็นหนังแก๊งสเตอร์ของมันเองนั้น A Bittersweet Life ก็ดูเหมือนจะเสียดสีพวกแก๊งนักเลงไปในตัวด้วย บางฉากบางตอนทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ที่จริงแล้วไอ้พวกนี้มันก็ไม่ได้ดูสุขุมลุ่มลึกเหมือนสูทสีทะมึนที่ใส่หรอก หลายครั้งที่พวกมันตัดสินอะไรด้วยการใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง และการกระทำส่วนใหญ่ก็เป็นแบบ “พวกมากลากไป” เกือบทั้งสิ้น
อย่าง ไรก็ตาม ประเด็นหลักของหนังเรื่องนี้ไม่ได้เน้นที่การห้ำหั่นกันระหว่างพวกระหว่าง ฝ่ายเหมือน Infernal Affairs หรือ Election แต่หนังโฟกัสไปที่ ซันวู (รับบทโดย ลีบยุงฮุน) พระเอกของเรื่องมากกว่า
พล็อต ของหนังไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมาย หนังเล่าถึง ซันวู ผู้จัดการโรงแรมหรูหราแห่งหนึ่ง ที่มีตำแหน่งพ่วงเป็นถึงมือขวาของเจ้าพ่อใหญ่อย่างประธานคัง เขาได้รับคำสั่งจากท่านประธานให้ไป “เก็บ” แฮซู -เมียเด็กของเขา- กับชายชู้ แต่แล้วซันวูกลับตัดสินใจปล่อยทั้งสองไป
การ ตัดสินใจ (อันผิดพลาด - ในสายตาของเจ้านาย) ทำให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โตไปจนถึงตอนจบของหนัง ซันวูถูกลงโทษอย่างสาหัส แต่ก็รอดมาได้ และเขาก็เริ่มออกแก้แค้นทันที หากแต่การโต้คืนของเขาที่นำความสะใจมาแก่คนดูในช่วงแรกนั้น กลายเป็นความน่าสะเทือนใจอย่างที่สุด
ว่ากันว่าชีวิตเรามีทั้งขึ้นและลง ทั้งดีและร้าย และทั้งหวานและขม แต่สำหรับซันวู ความขมนั้นได้ “กลืน” ชีวิตเขาไปจนหมดสิ้นแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น